- ปารีส ประเทศฝรั่งเศส มักแฝงตัวตามสถานที่ท่องเที่ยวเช่น หน้าพระราชวังแวร์ซายส์ และตามรถไฟใต้ดิน พวกนี้มักจะมาในรูปของโจรกรีดกระเป๋า
- มิลาน โรม ประเทศอิตาลี มักจะอยู่ตามรถไฟใต้ดิน และหน้าสถานที่ต่างๆ เช่น หน้าโบสถ์ดูโอโมที่มิลาน หน้าโคลอสเซียมที่โรม พวกนี้จะมาในรูปของยิปซีที่แต่งตัวรุ่มร่าม และพวกคนผิวดำที่ชอบมาหลอกขายของหรือหลอกผูกข้อมือด้วยเส้นด้ายต่างๆ และเก็บเงินในราคาที่แพงมาก
- แมดริด บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เป็นอีกที่ที่ได้ชื่อว่ามีมิจฉาชีพอยู่ไม่น้อย รูปแบบจะเป็นเช่น ขี่มอเตอร์ไซค์วิ่งราว หรือถ้าจอดรถอยู่อาจซวยเจอทุบกระจกแล้วขโมยของในรถไป
2. ระวังตกรถ เนื่องจากระบบขนส่งของยุโรปเป็นอะไรที่ตรงเวลามากๆๆ ไม่ว่าจะรถบัสหรือรถไฟ เช่น ถ้าตามตารางเวลาบอกว่าจะมาถึง 18.30 ก็จะมาถึง 18.30 เป๊ะๆ หรือบวกลบไม่เกิน 5-10 นาที เพราะฉะนั้นถ้าใครเดินช้าหรือมัวอ้อยอิ่งล่ะก็ตกรถแน่ๆ สถานเดียวเลยล่ะค่ะ แต่อันนี้อาจจะเป็นข้อเสียในแง่ที่ต้องต่อรถไฟไปเมืองอื่นๆ เช่น รถไฟขบวนแรกจะไปถึงตอน 9.20 แต่อีกขบวนที่เราต้องไปต่อจะออก 9.30 แบบนี้ก็ต้องวิ่งป่าราบกันเลยล่ะค่ะ ไม่งั้นตกรถแน่ๆ
3. ระวังโดนดูถูก โดยเฉพาะน้องผู้หญิงที่อาจจะมีผิวสีแทนๆ หน่อย เพราะชาวต่างชาติบางคนก็ชอบเหมาว่าเป็นผู้หญิงอย่างว่า .... เพราะฉะนั้นถ้าเจอฝรั่งที่มาทำตัวรุ่มร่ามใส่ ก็ให้เดินหนีไปเลยนะ หรือไม่ก็ด่ากลับซะเลยให้เค้ารู้ว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างนั้นนะ !!
4. ระวังเงินหมด ไปยุโรปทั้งที จะมามัวประหยัดก็ไม่ได้สิเนาะ หลายคนหมดตัวกับการช้อปปิ้ง ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของฝาก ที่ค่อนข้างมีราคาสูงเนื่องจากที่นั่นมีค่าครองชีพที่สูง หรือเสื้อผ้าต่างๆ ที่บางแบรนด์ไม่มีในเมืองไทย หรืออาจจะมีในไทยแต่ที่ยุโรปถูกกว่า เลยไม่อยากพลาดที่จะช้อป ยังไงก็อย่าลืมคิดคำนวณเงินให้พอเหลือค่ารถกลับบ้านกันบ้างอะไรบ้างนะ
5. ระวังติดใจ ข้อนี้สำคัญมาก ว่ากันว่าใครที่ไปยุโรปแล้วต้องกลับไปอีกกันทุกราย เพราะติดใจกับความสวยงามของที่นั่น รวมถึงการเดินทางที่สะดวกสบายมาก ประมาณว่าไปยุโรปทีได้เที่ยวกัน 3-4 ประเทศเลย หลับตาบนรถไฟซักงีบก็ข้ามประเทศแล้ว คุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลยใช่มั้ยล่ะ บางคนกลับจากเที่ยวยุโรปได้แป๊บเดียว ก็ต้องวางแผนหาทางกลับไปกันอีก เพราะติดใจในยุโรปเข้าอย่างจัง ! และหาได้น้อยมากกกกที่คนที่ไปยุโรปแล้วจะรู้สึกไม่ชอบยุโรป ก็ของเค้าสวยจริงๆ