*ช่วงแรก ช่วงก่อนเปิดเทอมหรือช่วงปิดเทอม
เป็นเวลาแห่งการช่วงชิงความรู้ที่ดีที่สุด หยิบหนังสือเรียนออกมาทั้งหมด วางไว้มุมหนึ่งของโต๊ะ เปิดอ่านวันละนิดละหน่อย ทำความเข้าใจ แม้จะงงๆ อยู่ แต่ก็ไม่เป็นไร แค่ได้อ่านก็พอแล้ว
*ช่วงที่สอง ช่วงก่อนไปโรงเรียนหรือช่วงก่อนเวลาเรียน
ลองตื่นเช้ากว่าปกติสักครึ่งชั่วโมงเพื่อมาอ่านบทเรียนที่ต้องเรียนในวันนี้ สักยี่สิบนาทีก็พอ อีกสิบนาทีทำตัวขี้เกียจเพื่อให้สมองได้พักผ่อน แบบว่าอ่านแบบชิวๆ สบายๆ ไม่ต้องเคร่งเครียด หรืออาจจะอ่านก่อนเวลาชั่วโมงเรียน แต่ไม่อยากจะแนะนำสักเท่าไหร่สำหรับคนที่เรียนชั่วโมงต่อชั่วโมง สำหรับคนที่เรียนแบบชั่วโมงนี้เรียน ชั่วโมงนี้ว่าง เหมือนโรงเรียนของต่างประเทศที่เข้าเรียนเป็นวิชาๆ หรือระดับมหาวิทยาลัยใช้ได้ค่ะ แต่อย่าเครียดจนเกินไป แค่อ่านให้รับรู้ว่าเราอ่านมาแล้วก็พอ
*ช่วงที่สาม ช่วงเย็นหลังเลิกเรียน
อันนี้รู้สึกจะไม่ได้จัดอยู่ในหมวดทำความเข้าใจก่อนเข้าเรียน แต่ถือว่าจำเป็นมากโข เพราะเป็นการทบทวนไม่ให้เราลืมสิ่งที่เพิ่งเรียนไป อ่านแค่พอระลึกชาติก็พอ อย่าเครียดเด็ดขาดเลย
วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552
Moi-Même
วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552
คำศัพท์น่ารู้เกี่ยวกับหมอ
คลินิก - ไม่ได้หมายถึงสถานพยาบาลหรือร้านที่อาจารย์ไปเปิดกันอย่างเดียว แต่มันหมายถึงการเรียนที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโดยตรง ซึ่งก็คือการเรียนการสอนในโรงพยาบาลในแง่ของอาการ การวินิจฉัย และการรักษาโรคสำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 4-6
พรีคลินิก - อันนี้ก็ไม่ได้หมายถึงการเตรียมตัวก่อนจะเปิดสถานพยาบาลเช่นกัน แต่หมายถึง การเรียนในพื้นฐานเบื้องต้นก่อนที่เราจะเรียนกับผู้ป่วยโดยตรง ซึ่งก็คือการเรียนการสอนในชั้นปีที่ 1-3
Ward - ( วอร์ด ) หอผู้ป่วย
OPD - Out Patient Department แผนกผู้ป่วยนอก
ER - Emergency Room ห้องฉุกเฉิน
Admit - การอนุญาตให้ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยใน ซึ่งก็หมายความว่าถ้าคุณจะนอนโรงพยาบาลได้ต้องได้รับการอนุญาตจากแพทย์ก่อน
Round Ward - (ราวน์ วอร์ด) การดูแลผู้ป่วยใน ตามเวลาราชการในแต่ละวัน
อยู่เวร - การดูแลผู้ป่วยนอกเวลาราชการ ถ้าเป็นวันจันทร์ - ศุกร์ ก็จะเริ่มตั้งแต่ 16.00 น. จนถึง 8.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราจะได้หยุดหลังจากนั้น เราก็ต้องมาทำงานต่อจนถึง 16.00 น.ของอีกวัน หรือจนกว่าจะมีคนมารับเวรต่อจากเราอีกที ถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็ต้องเริ่มอยู่กันตั้งแต่ 08.00 น.ของวันนี้ไปจนถึง 08.00 น. ของวันต่อไป (อ่านแล้วก็อย่าเพิ่งท้อถอยกัน เพราะส่วนใหญ่ไม่ว่าโรงพยาบาลไหนก็ต้องอยู่ประมาณ 7-10 เวรต่อเดือน หรือถ้าบางที่โหดหน่อยหนักหน่อยก็อาจจะถึง 15 เวรต่อเดือนเลยก็มี)
วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552
โยคะช่วยเพิ่มความสูงได้
ท่าสุขอาสนะ : ท่านี้จะต้องนั่งขัดสมาธิกับพื้น หงายฝ่ามือทั้งสองข้างบนเข่า กำหนดลมหายใจเข้า-ออกให้ลึกและสัมพันธ์กัน หายใจเข้า-ออกลึกๆ อย่างน้อย 5 ครั้ง ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะพร้อมๆ กับสูดลมหายใจเข้า ค่อยๆ วางแขนลงช้าๆ ขณะปล่อยลมหายใจออก
ท่าแมว : ท่าสุดท้ายนี้ก็ไม่ยากเช่นกัน จะต้องคุกเข่าโดยให้หัวเข่าสองข้างอยู่ห่างกัน วางมือสองข้างให้ตรงกับหัวไหล่ สูดลมหายใจเข้ายกสะโพกขึ้น พร้อมกับแอ่นตัว แหงนหน้าขึ้น ค่อยๆ ยืดตัวตรง และโก่งตัวขึ้น พร้อมกับก้มศีรษะลง กลับสู่ท่าปกติ
ท่าสามเหลี่ยม : เพียงแค่ยืนแยกขาห่างจากกันประมาณ 90 - 120 เซนติเมตร ให้เท้าทั้งสองข้างขนานกัน หันเท้าซ้ายไปออกจากลำตัว 90 องศา หันเท้าขวาเข้าหาลำตัว 45 องศา หายใจเข้าพร้อมกับยกแขนขึ้นจากข้างลำตัวให้ขนานกับพื้น หายใจออกพร้อมแนบศีรษะให้ติดกับต้นแขนซ้าย ยืดขาซ้ายให้ตรง หายใจเข้าลึกๆ เอนตัวไปทางด้านซ้ายจนสุด ยืดแขนซ้ายมาจับข้อเท้าซ้ายและยกแขนขวาตั้งตรง แหงนศีรษะมองมือขวาและสูดลมหายใจเข้า-ออกลึกๆ หลายๆ ครั้ง ทำซ้ำท่าเดิมทางด้านขวา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)